โซ่สมอเรือ

การทำงานของโซ่ยึดเรือ

โซ่닻เรือ - นี่คือลิงก์เหล็กยาวที่เชื่อมโยงระหว่างสมอและเรือ เมื่อสมอลงสู่พื้น มันจะถูกดึงลงไปในความลึกของมหาสมุทรโดยตรง ช่วยให้สมอจับเรือให้อยู่ในที่ ส่วนโซ่ยังช่วยลดแรงกระแทกเมื่อเรือแกว่งจากคลื่นหรือน้ำขึ้นน้ำลง โซ่จำเป็นต้องมีความแข็งแรงและได้รับการบำรุงรักษาอย่างดี

วิธีเดียวที่คุณจะเข้าใจการทำงานของโซ่สมอเรืออย่างเต็มที่คือการศึกษาว่ามันทำงานในเชิงกลไกอย่างไร โซ่นี้เชื่อมโยงระหว่างสมอกับเรือ ช่วยในการจอดเรือ เมื่อสมอปล่อยออก แรงโน้มถ่วงจะทำให้โซ่จมลงไปใต้น้ำหนักของมันเองบนพื้นทะเล และป้องกันไม่ให้เรือลอยไปมา นอกจากนี้ โซ่ยังช่วยลดแรงสั่นสะเทือนซึ่งลดการโหลดพลังงานในเวลาที่ทะเลมีคลื่นแรง นี่คือเหตุผลที่โซ่ต้องมีความแข็งแรงและสภาพดีเพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การลดน้ำหนักของโซ่สมอเรือเกิดขึ้นที่ใด

เรืออาจใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นเมื่อลากโซ่닻ที่หนัก โดยเฉพาะเมื่อมีปริมาณห้องกันน้ำรั่วในระดับสูงที่ถูกน้ำท่วมอย่างรวดเร็ว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา วัสดุใหม่ที่มีน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรงสูง เช่น พลาสติกที่แข็งแรง คาร์บอนไฟเบอร์ และไทเทเนียม ได้ถูกนำมาใช้เพื่อลดน้ำหนักของโซ่ แม้ว่าวัสดุเหล่านี้จะมีราคาสูงกว่า แต่ก็สามารถช่วยลดน้ำหนักของโซ่โดยไม่สูญเสียความแข็งแรง

เพื่อแก้ไขปัญหาโซ่닻เรือที่หนัก แนวคิดต่างๆ ที่อาจให้คำตอบได้ถูกพัฒนาขึ้นมาแล้ว ความเร็วของเรือ และแน่นอนว่าการเผาไหม้เชื้อเพลิงอย่างรวดเร็วสามารถได้รับผลกระทบอย่างมากจากน้ำหนักบนเรือ: โซ่เหล็กแบบดั้งเดิมมีน้ำหนักมากเมื่อพิจารณาถึงความยาวของโซ่ neo เรือ neo เพื่อแก้ไขปัญหานี้ การวิจัยกำลังดำเนินการเกี่ยวกับวัสดุที่เบากว่าแต่แข็งแรงกว่า เช่น พอลิเมอร์ความแข็งสูง คาร์บอนไฟเบอร์ และไทเทเนียม แม้ว่าวัสดุเหล่านี้จะมีราคาแพงกว่า แต่พวกมันก็มีประโยชน์ตรงที่ทำให้ส่วนที่ยาวขึ้นของโซ่ neo เรือเบาลงโดยไม่ลดความแข็งแรง

การตรึงโซ่ยึดเรือ

โซ่닻จ้องต้องได้รับการดูแลให้ปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพทะเลที่ขรุขระ ลูกเรือต้องตรวจสอบว่าสมอถูกวางไว้อย่างปลอดภัยและเป็นระเบียบ เพื่อให้มั่นใจว่ามันไม่หลวมหรือแน่นเกินไป หากโซ่หลวมเกินไป สมอจะหลุดออก และเรือของคุณก็เช่นกัน แต่หากโซ่แน่นเกินไป มันอาจหักได้ นอกจากนี้ทีมงานยังต้องตรวจสอบความเสียหายและซ่อมแซมทันที

ในสถานการณ์ที่ทะเลมีความไม่มั่นคงและอันตราย การดูแลโซ่닻ของเรือเป็นส่วนสำคัญที่ต้องให้ความสนใจ ในเวลาที่สมอและโซ่ต้องทนต่อคลื่นแรง ลมแรง และกระแสน้ำมหาสมุทรที่ทรงพลัง ลูกเรือจำเป็นต้องตรวจสอบว่าสมอถูกวางอย่างเหมาะสม และไม่หลวมหรือแน่นเกินไปในโซ่ หากโซ่มีความหลวมมากเกินไป อาจทำให้สมอมีความเครียดเกินจำเป็นและทำให้เรือลอยออกไปกลางทะเลได้ ในขณะที่หากโซ่แน่นเกินไปโดยไม่มีการดูแล ก็อาจไม่สามารถรับแรงกดจากด้านล่างได้และอาจหักได้ นอกจากนี้ การตรวจสอบประจำเพื่อดูความสึกหรอและการแตกหักยังเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อแก้ไขปัญหาใด ๆ ทันที

ผลกระทบของสภาพแวดล้อมต่อโซ่ยึดเรือ

น้ำทะเล เกลือ และทรายสามารถสร้างความเสียหายให้กับโซ่ทำให้เกิดสนิมและอ่อนแอลงในที่สุด โซ่ยังสามารถหักได้หากเสียดสีกับหินและขยะบนพื้นทะเล เพื่อป้องกันสิ่งนี้ เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องรักษาความสะอาดของโซ่และหล่อลื่นอย่างเหมาะสม (ใช้น้ำมันหล่อลื่น) หลีกเลี่ยงการลากโซ่ผ่านทางที่สกปรกหรือใบไม้/ขยะที่ความเร็วมากกว่า ~20 กม./ชม. หรือ 12 ไมล์/ชั่วโมง เมื่อทำความสะอาดควรตรวจสอบความเสียหายของห่วงโซ่ด้วย

สภาพแวดล้อมเป็นสาเหตุหนึ่งของการสึกหรอของโซ่สมอเรือ การสัมผัสกับน้ำทะเล เกลือ หรือทรายบนถนนก็สามารถทำให้เกิดสนิมเร็วกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดความอ่อนแอในบริเวณที่เป็นจุดอ่อน นอกจากนี้ หินหรือสิ่งกีดขวางใต้ทะเลอาจทำลายโซ่ได้ เพื่อควบคุมผลกระทบนี้ เจ้าหน้าที่จะต้องเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดและหล่อลื่นที่เหมาะสมไว้เสมอ หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่เต็มไปด้วยขยะ หากเป็นไปได้ และตรวจสอบการสึกหรอหรือความเสียหายเป็นประจำระหว่างปฏิบัติงานตามปกติ

สรุปได้ว่า เครื่องมือที่สำคัญสำหรับเรือก็คือโซ่ยึดสมอ ซึ่งทำหน้าที่เหมือนอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับเรือ เราต้องให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษา รู้วิธีการทำงานของมันในทะเล มองหาวัสดุใหม่ๆ เพื่อช่วยลดน้ำหนัก ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง และสังเกตการเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อม หากปฏิบัติตามมาตรการเหล่านี้อย่างละเอียด มันจะเป็นเสมือนการเดินทางที่ไม่เพียงแต่ตรวจสอบทุกอย่างให้ครบถ้วน แต่ยังทำให้เรือสามารถแล่นไปในน้ำที่รุนแรงที่สุดได้อย่างมั่นใจ